ค่าย Dtac กังหันสีฟ้าฮึดปีกระต่ายประกาศแผนการตลาดปี 2011 พร้อมเปิดตัว CEO คนใหม่
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดีแทคเปิดเผยถึงแผนดำเนินงานธุรกิจในปี 54 พร้อมเปิดตัว "จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์" CEO คนใหม่ของดีแทค
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดีแทคได้แถลงผลประกอบการในปี 2553 ว่าดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดดำเนินธุรกิจมา ด้วยกำไรสุทธิถึง 1.09 หมื่นล้านบาท ซึ่งช่วงแรกของปีได้คาดการณ์ว่าจะมีกำไรในระดับตัวเลข 1 หลัก (1 digit) แต่ทำได้ถึง 10.1%, กระแสเงินสดจาก 1.7 หมื่นล้านบาท กลายเป็น 2.15 หมื่นล้านบาท, ฐานลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านราย เพิ่มเป็น 2 ล้านราย และการจัดการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งหมดจึงทำให้กำไรของผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
คณะ กรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจ่ายเงินปันผล 3.21 บาทต่อหุ้น หรือกว่า 70% ของกำไรสุทธิที่ได้รับ ซึ่งในเดือนเมษายนนี้จะต้องนำเข้าประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป
สิ่ง ที่น่าสนใจจากผลประกอบการที่ดีอย่างก้าวกระโดดคือ รายได้จากบริการเสริม (VAS) เป็นจำนวน 15% ในปี 2010 เมื่อเทียบกับในปี 2009 ที่มี 12.8%
หรือหากมองจำนวนผู้ใช้งานในกลุ่มบริการเสริมพบว่า สัดส่วนผู้ใช้งานดาต้าอินเตอร์เนท ในปี 2010 มีมากถึง 42% มากกว่าปี 2009 ถึง 17%
เป้าหมายในปี 2011
ดี แทคคาดว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโดยรวมจะคงที่ เพราะอยู่ในระหว่างการวางเครือข่าย 3G อีกทั้งความไม่แน่นอนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ดีแทคจึงประเมินว่าจะมีกระแสเงินสดประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยสำรองจ่ายเพื่อการลงทุนประมาณ 6-7 พันล้านบาท, การเติบโตประมาณครึ่งของระดับตัวเลข 1 หลัก (mid single digit)
แนวทางในการทำการตลาดปี 2011
ดี แทคได้วางกลยุทธ์ 4 ด้านหลักจากที่ได้เปลี่ยนโครงค่ายทั้งหมดเป็นระบบใหม่ เพื่อให้ระบบรองรับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างดี มีความเสถียร โครงการนี้เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนการติดตั้งระบบ 3G ย่าน 850MHz ที่ได้รับการอนุมัติจาก กสท โทรคมนาคม จำนวน 1,220 สถานี จะเริ่มใช้งานได้ประมาณเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ และ 15 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ พร้อมเปิดทดลองให้บริการ Wi-Fi ในพื้นที่สำคัญๆ ของกรุงเทพฯ
กลยุทธ์ทั้ง 4 แนวทาง
1. เป็นผู้นำการให้บริการการสื่อสารด้วยเสียง (Voice) อาศัยโอกาสจากการเปลี่ยนโครงค่ายเป็นระบบใหม่ ซึ่งจะรองรับการสื่อสารด้วยเสียงที่คมชัด โดยมีลูกค้าระบบพรีเพดเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
2. ผลักดันให้ลูกค้าระบบพรีเพด ใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ มีการใช้งานดาต้าเพียง 3% เท่านั้น ซึ่งเป็นโอกาสของดีแทคในการสร้างการใช้งานดาต้าของกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น
3. บริการคงสิทธิเลขหมาย (MNP) ที่จะมีลูกค้าระบบอื่นย้ายค่ายมายังดีแทคเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันดีแทคมีกลุ่มลูกค้าโพสเพดที่เป็นพรีเมี่ยมเราต้องรักษาไว้ เช่นกัน
4. สร้างวัฒนธรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น นั้นหมายถึงหากมีการใช้งานเพิ่มขึ้น รายได้จากบริการเสริมจะเพิ่มขึ้นตามด้วยเช่นกัน
โอกาส นี้ดีแทคได้แนะนำประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) คนใหม่ที่จะมารับตำแหน่งในวันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป คือ นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ชาวอเมริกัน ซึ่งย้ายสลับตำแหน่งกับ นายทอเร่ จอห์นเซ่น ไปประจำการที่เทเลนอร์ ปากีสถาน ปัจจุบันสมรสแล้วกับภรรยาชาวมาเลเซีย และเปลี่ยนศาสนาเป็นมุสลิม มีบุตรสาวอายุ 13 และบุตรชายอายุ 9 ปี
เนื้อหาข่าวนำมาจากที่นี่ครับ http://www.mxphone.com/update/8845/2011-CEO
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดีแทคได้แถลงผลประกอบการในปี 2553 ว่าดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดดำเนินธุรกิจมา ด้วยกำไรสุทธิถึง 1.09 หมื่นล้านบาท ซึ่งช่วงแรกของปีได้คาดการณ์ว่าจะมีกำไรในระดับตัวเลข 1 หลัก (1 digit) แต่ทำได้ถึง 10.1%, กระแสเงินสดจาก 1.7 หมื่นล้านบาท กลายเป็น 2.15 หมื่นล้านบาท, ฐานลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านราย เพิ่มเป็น 2 ล้านราย และการจัดการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งหมดจึงทำให้กำไรของผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
คณะ กรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจ่ายเงินปันผล 3.21 บาทต่อหุ้น หรือกว่า 70% ของกำไรสุทธิที่ได้รับ ซึ่งในเดือนเมษายนนี้จะต้องนำเข้าประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป
สิ่ง ที่น่าสนใจจากผลประกอบการที่ดีอย่างก้าวกระโดดคือ รายได้จากบริการเสริม (VAS) เป็นจำนวน 15% ในปี 2010 เมื่อเทียบกับในปี 2009 ที่มี 12.8%
หรือหากมองจำนวนผู้ใช้งานในกลุ่มบริการเสริมพบว่า สัดส่วนผู้ใช้งานดาต้าอินเตอร์เนท ในปี 2010 มีมากถึง 42% มากกว่าปี 2009 ถึง 17%
เป้าหมายในปี 2011
ดี แทคคาดว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโดยรวมจะคงที่ เพราะอยู่ในระหว่างการวางเครือข่าย 3G อีกทั้งความไม่แน่นอนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ดีแทคจึงประเมินว่าจะมีกระแสเงินสดประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยสำรองจ่ายเพื่อการลงทุนประมาณ 6-7 พันล้านบาท, การเติบโตประมาณครึ่งของระดับตัวเลข 1 หลัก (mid single digit)
แนวทางในการทำการตลาดปี 2011
ดี แทคได้วางกลยุทธ์ 4 ด้านหลักจากที่ได้เปลี่ยนโครงค่ายทั้งหมดเป็นระบบใหม่ เพื่อให้ระบบรองรับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างดี มีความเสถียร โครงการนี้เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนการติดตั้งระบบ 3G ย่าน 850MHz ที่ได้รับการอนุมัติจาก กสท โทรคมนาคม จำนวน 1,220 สถานี จะเริ่มใช้งานได้ประมาณเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ และ 15 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ พร้อมเปิดทดลองให้บริการ Wi-Fi ในพื้นที่สำคัญๆ ของกรุงเทพฯ
กลยุทธ์ทั้ง 4 แนวทาง
1. เป็นผู้นำการให้บริการการสื่อสารด้วยเสียง (Voice) อาศัยโอกาสจากการเปลี่ยนโครงค่ายเป็นระบบใหม่ ซึ่งจะรองรับการสื่อสารด้วยเสียงที่คมชัด โดยมีลูกค้าระบบพรีเพดเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
2. ผลักดันให้ลูกค้าระบบพรีเพด ใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ มีการใช้งานดาต้าเพียง 3% เท่านั้น ซึ่งเป็นโอกาสของดีแทคในการสร้างการใช้งานดาต้าของกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น
3. บริการคงสิทธิเลขหมาย (MNP) ที่จะมีลูกค้าระบบอื่นย้ายค่ายมายังดีแทคเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันดีแทคมีกลุ่มลูกค้าโพสเพดที่เป็นพรีเมี่ยมเราต้องรักษาไว้ เช่นกัน
4. สร้างวัฒนธรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น นั้นหมายถึงหากมีการใช้งานเพิ่มขึ้น รายได้จากบริการเสริมจะเพิ่มขึ้นตามด้วยเช่นกัน
โอกาส นี้ดีแทคได้แนะนำประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) คนใหม่ที่จะมารับตำแหน่งในวันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป คือ นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ชาวอเมริกัน ซึ่งย้ายสลับตำแหน่งกับ นายทอเร่ จอห์นเซ่น ไปประจำการที่เทเลนอร์ ปากีสถาน ปัจจุบันสมรสแล้วกับภรรยาชาวมาเลเซีย และเปลี่ยนศาสนาเป็นมุสลิม มีบุตรสาวอายุ 13 และบุตรชายอายุ 9 ปี
เนื้อหาข่าวนำมาจากที่นี่ครับ http://www.mxphone.com/update/8845/2011-CEO